Member Login

Welcome back, friend. Login to get started

Facebook

Not member yet / Forgot password

สมัครสมาชิก

พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษแล้วหรือยัง? มาเริ่มกันเลย!

Facebook

Password Recovery

Fortgot your password? Don't worry we can deal with it
ธนาคารไข่สิริยศวดี

ธนาคารไข่สิริยศวดี

ตามการวิจัยของ กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ในแต่ละปีมีเด็กมากกว่า 3.1 ล้านคน เสียชีวิตด้วยโรคขาดสารอาหาร และยังมีเด็กอีกราวประมาณ 200 ล้านคนในประเทศกำลังพัฒนา ต้องทุกข์ทนกับสภาวะทุพโภชนาเรื้อรังตั้งแต่ในครรภ์มารดาและปัญหาการขาดอาหารในวัยเด็ก แต่หากมีไข่ไก่ให้บริโภควันละฟอง ก็มากเพียงพอที่จะช่วยเหลือพวกเขาให้รอดจากความทุกข์ยาก เพราะไข่ไก่ 1 ฟองให้พลังงานและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นโปรตีนขั้นพื้นฐานที่หารับประทานได้ในราคาประหยัด

สมเด็จพระสังฆราชทรงพระดำริให้วัดทั่วประเทศไทยจัดตั้งโรงทาน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบความยากลำบากในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2563 ผ่านเฟสบุ๊ค สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช

(อ้างอิง: https://www.facebook.com/SanggharajaOffice/posts/2473668389610717)

เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของสมเด็จพระสังฆราช ผศ.ดร.ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ คณบดีวิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับงบประมาณให้ทำโครงการ เกษตรกรทันสมัย(smart farmer)ในปี 2561 และการเลี้ยงไก่ประดู่หางดำก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ จึงได้ต่อยอดโครงการเป็น โครงการระดมทุนปล่อยกู้ "เพื่อเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อย (Free Range)” ด้วยการออกเหรียญดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน นอกจากนี้ยังได้งบสนับสนุนจากโครงการจ้างงาน อว. เฟส 2 เข้ามาสนับสนุนอีกทางหนึ่งจนสามารถจัดตั้ง “ธนาคารไข่สิริยศวดี” เพื่อสร้างอาชีพเสริมและมอบโอกาสให้แก่ชาวบ้านและเกษตรกรในท้องถิ่น ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 (โควิด-2019) โดยการสร้างตลาดชุมชน และโรงทานแห่งการบริจาคที่มาจากการส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี โดยมีศูนย์กลางบริหารไข่ไก่คือวัดศรีสุพรรณ 

อ้างอิงจากแนวคิด “ไมโครเครดิต” หรือ การให้กู้เงินโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันแก่ผู้ยากจน ธนาคารของเขาได้เปิดโอกาสให้ผู้ยากไร้สร้างงานสร้างอาชีพ บนระบบกลไกที่เอื้ออำนวยให้ผู้กู้สามารถชำระหนี้ได้  ของ มูฮัมหมัด ยูนูส ผู้ก่อตั้ง ธนาคารกรามีนแห่งประเทศบังกลาเทศ โครงการได้จัดตั้งระบบการเงินระดับจุลภาค (Microfinance) โดยปล่อยสินเชื่อขนาดเล็กและทุนสนับสนุนงบประมาณให้แก่ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ไก่ไข่แม่พันธุ์อายุ 17 สัปดาห์ จำนวน 200 ตัว มูลค่า 34,000 บาท และเงินสนับสนุนอีกจำนวน 16,000 บาทในการก่อสร้างโรงเรือนและซื้อวัสดุอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงไก่ไข่ ตลอดจนถึงได้รับการอบรมความรู้การเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานกรมปศุสัตว์จากผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.สุวิทย์ โชตินันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ปีก คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 

รูปแบบการชำระหนี้ของผู้เข้าร่วมโครงการได้อาศัยหลักแห่งธรรมะ การตั้งจิตบนสัจอธิษฐาน และสัจจะวาจา  เนื่องจากเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการและวัดได้ทำสัญญาร่วมกันในรูปแบบของการเข้าร่วมโครงการวิจัยเท่านั้นจึงมีเพียงแค่หลักธรรม การตั้งจิตตั้งใจทำในสิ่งที่ดีงาม ละเว้นการประพฤติกรรมในสิ่งที่ผิด บนเงื่อนไขว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องตั้งใจดูแลไก่ไข่อย่างเต็มที่และชำระหนี้สินในรูปแบบของแผงไข่ วันละ 1 แผง (เฉลี่ยวันละ 30 ฟอง/วัน) หรือ คำนวณเป็นเงินวันละ 120 บาท/วัน เป็นเวลาทั้งสิ้น 500 วัน (หรือรวมจำนวนไข่ไก่ต้องคืนแก่วัด 15,000 ฟอง)

นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจทั่วไป สามารถร่วมทำบุญบริจาคไข่ไก่เป็นธรรมทานให้แก่เด็กและผู้ยากไร้กับวัดศรีสุพรรณผ่านระบบธนาคารไข่สิริยศวดีในรูปแบบไร้เงินสด มูลค่าการบริจาค 1,500 บาทต่อ 365 ฟอง (ไข่ไก่อารมณ์ดี 4 บาท/ฟอง) เพียงเท่านี้เด็กหนึ่งคนก็จะมีไข่ไก่อารมณ์ดีที่ปลอดสาร อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่มากกว่าไข่ไก่เชิงอุตสาหกรรม มีบริโภคตลอดหนึ่งปีอย่างไม่ขาดแคลน และสร้างมาตรฐานความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ตามแนวทางขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ช่วยให้สถานสงเคราะห์หรือหน่วยงานมูลนิธิที่ได้รับการบริจาคไข่ไก่ไป สามารถจัดการวัตถุดิบในมือ เพื่อกระจายให้ทั่วถึงแก่ผู้คนยากไร้อย่างมีเสถียรภาพ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะขาดแคลนอาหารในพรุ่งนี้หรือไม่นั่นเอง

ไข่ไก่อารมณ์ดีจากชาวบ้านในโครงการ ไข่ไก่ส่วนที่เกษตรกรต้องคืนวัดตามสัญญาจะอยู่ภายใต้การบริหารของมูลนิธิวัดศรีสุพรรณ เพื่อสร้างตลาดสินค้าชุมชน โรงทาน หรือจัดกิจกรรมช่วยเหลือสังคมต่างๆ เช่น ทำโรงทานวัด โรงเรียน สถานสงเคราะห์เด็กและคนชราในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่หรือจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนถึงมีไข่ไก่เพื่อบริโภคในครัวเรือน โดยไข่ไก่จะถูกจำหน่ายและทำบุญในส่วนต่างๆ ของวัดศรีสุพรรณ ออกเป็น 3 ส่วน คือ

  1. โรงทานวัดศรีสุพรรณ : ไข่ไก่ที่ได้รับจากชาวบ้านและเกษตรกรในรูปแบบการชำระหนี้สิินประมาณอย่างต่ำ 480 ฟองต่อวันจะถูกนำมาสรรค์สร้างเป็นเมนูโรงทานต่างๆ เพื่อแจกจ่ายให้แก่ผู้ทุกข์ยาก ผู้ที่ขาดรายได้ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จะได้รับโปรตีนจากไข่ไก่อารมณ์ดี ที่ปลอดสาร และยังลดภาวะการก่อมะเร็งได้ถึง 20%
  2. การจัดตั้งทำบุญออนไลน์ : ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญกับทางวัดศรีสุพรรณจำนวน 1,000 บาทขึ้นไปผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ สแกน QR-Code ไข่ไก่ที่ได้จากการทำบุญจะถูกนำไปสร้างโรงทานแก่ผู้ยากไร้ ผู้บริจาคจะได้รับใบอนุโมทนาบุญจากทางวัดศรีสุพรรณเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีตามกฏหมาย (แนบรูปประกอบ)
  3. ทำบุญด้วยไข่ไก่ถวายพระเจ้า 7 ตื้อ : เมื่อปี พ.ศ.2547 ชาวบ้านและช่างฝีมือชุมชนวัวลายได้ร่วมใจกันสร้างพระอุโบสถใหม่ขึ้นมาเนื่องจากอุโบสถหลังเดิมมีสภาพทรุดโทรม ไม่สะดวกแก่การประกอบศาสนกิจ จึงเกิดเป็นพระอุโบสถเงินแห่งแรกของโลก ที่ได้รวบรวมความงดงามของศิลปะและภูมิปัญญาเมืองล้านนาภายในแห่งเดียว โดยภายในพระอุโบสถนั้นยังคงประดิษฐานพระเจ้า 7 ตื้อไว้เช่นเดิม เป็นที่เคารพสักการะของชุมชนวัดศรีสุพรรณและประชาชนทั่วไป ผู้ที่ศรัทธาสามารถบนขอพรและแก้บนด้วยการถวายไข่ไก่สิริยสวดี เพื่อต่อยอดการสร้างตลาดโรงทานที่ทั้งผู้บริจาค ชาวบ้านที่เลี้ยงไก่ไข่ และผู้รับบริจาคได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน เคยมีตำนานเล่าขานว่า พระประธานองค์นี้เคยแสดงพุทธปฏิหาริย์ลงสรงน้ำในสระข้างอุโบสถอยู่เป็นประจำ ประทานความสำเร็จแก่ผู้ที่มาอธิษฐานกราบไหว้เสมอ จึงกลายเป็นพระประธานที่เคารพสักการะของชาวบ้านวัวลายและประชาชนทั่วไป  

ปัจจุบันสถานสงเคราะห์ มูลนิธิ วัด และโรงเรียน ที่ได้รับบริจาคไข่ไก่อารมณ์จากวัดศรีสุพรรณแล้ว เช่น สถานสงเคราะห์เด็กเวียงพิงค์ โรงเรียนคนพิการตาบอด บ้านพักคนชรา และอื่นๆ เป็นต้น ผู้บริจาคในโครงการธนาคารไข่สิริยศวดี จะได้รับใบอนุโมทนาบุญจากทางวัดศรีสุพรรณ ที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย 

หนึ่งในโครงการที่เกิดขึ้นพร้อมกับไข่ไก่อารมณ์ดี นั่นคือ ตลาดเช้าทุกวันเสาร์ “ตักบาตรเช้า อุโบสถเงิน” ซึ่งจะมีเริ่มอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป โดยตลาดเปิดเวลา 6.00 น. เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจะมีการเตรียมร้านเปิดขายของกันอย่างครึ้กครื้น จำหน่ายตั้งแต่อาหารสุก อาหารแห้ง อาหาร-ขนมพื้นเมือง และวัตถุดิบท้องถิ่นหลากตา เมื่อเข้าสู่เวลา 7.30 น. พระภิกษุสงฆ์ จะเดินออกมาบิณฑบาตรตั้งแต่หน้าพระวิหารจนถึงลานอุโบสถเงิน ก่อนขึ้นพระวิหารเพื่อดำเนินกิจของสงฆ์ตามเวลาอันเหมาะสม 

ตกเย็นของวันเสาร์ในวันเดียวกันนั้นยังคงมีกิจกรรมถนนคนเดินวัวลาย ที่ถนนสองข้างทางของชุมชนจะเนืองแน่นไปด้วยของฝากของที่ระลึกพื้นเมืองที่น่าสนใจ และอาหารท้องถิ่น เสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ยังคงความวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ประกอบอาชีพช่างเครื่องเงิน ฉะนั้นจึงไม่แปลกนักหากจะเห็นงานหัตถศิลป์เครื่องเงินอันงดงามแทรกตัวอยู่เกือบทุกๆหนึ่งเมตรตามร้านค้าสองฝั่ง 

เมื่อเดินเข้าไปใกล้กับวัดศรีสุพรรณ จะได้ยินเสียงกลองสะบัดชัยดังกึกก้อง เชิญชวนเหล่านักท่องเที่ยวและผู้ได้ยินเข้ามาในวัด เพื่อเข้าร่วมประเพณีทำบุญแบบล้านนา ในชื่อกิจกรรม “ศรีสุพรรณอันปลั๊ก” ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ชาวบ้านในท้องถิ่นมีอาชีพเสริมในช่วงที่ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) เปิดพื้นที่ของวัดศรีสุพรรณให้นักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไปเข้าร่วมงานมงคลต่างๆที่จบในสถานที่เดียว เริ่มต้นด้วยพิธีสืบชะตาสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา ห่มผ้าพระเจดีย์ เวียนเทียบรอบพระอุโบสถเงิน และปิดท้ายด้วยชมการแสดงแสงสีเสียงรอบอันชวนน่าจดจำ โดยค่าใช้จ่ายลงทะเบียนเพียงท่านละ 299 บาท (สำหรับกลุ่ม 30 คนขึ้นไป)

ร่วมมาเป็นส่วนหนึ่งกิจกรรดีๆช่วยเหลือสังคม ของวิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และวัดศรีสุพรรณ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เฟสบุ๊ค: ธนาคารไข่สิริยศวดี หรือ เว็ปไซต์ http://www.watsrisuphan.com/